เพาเวอร์มิเตอร์จะใช้วิเคราะห์ค่ากำลังไฟฟ้าโดยหลักๆ 3 ประเภทดังนี้

  1. Active Power (P) คือกำลังไฟฟ้าที่ใช้จริง ซึ่งเกิดการโหลดจากการต้านทาน จะมีหน่วยวัดเป็นวัตต์ (W) หรือกิโลวัตต์ (kW) ซึ่งจะมีวิธีคำนวณได้จากสมการ P= V x 1 x Cos(zeta)
  2. Reactive Power (Q) คือ กำลังไฟฟ้าที่ศูนย์เสียไปหลังจากการเกิดการโหลดตัวเหนี่ยวนำ และตัวเก็บประจุซึ่งมีหน่วยเป็นวาร์ (VAR) หรือ กิโลวาร์ (kVAR) ซึ่งจะคำนวณได้จากสมการ  Q=V x Ax Sin (zeta)
  3. Apparent Power (A) คือกำลังไฟฟ้าที่ปรากฏ(Input) หรือผลรวมทางเวกเตอร์ของไฟฟ้าจริง และกำลังไฟฟ้าที่ศูนย์เสีย จะมีหน่วยเป็นโวลต์ แอมแปร์ (VA) หรือกิโลโวลต์ แอมแปร์ (kVA) ซึ่งจะคำนวณได้ตามสมการ Q= Vx A x Sin(zeta)

เครื่องวัดค่ากำลังไฟฟ้าหรือเพาเวอร์มิเตอร์ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประโยชน์และใช้งานง่ายที่สุด ในการวัดกำลังไฟฟ้าเมื่อไม่ต้องการการวิเคราะห์ข้อมูล ที่วัดได้อย่างละเอียด มันวัดแรงดัน (V) และกระแส (A) และได้มาจากผลลัพธ์ด้านพลังงานที่สำคัญที่สุดเหล่านี้      เครื่องวัดกำลังไฟฟ้าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับช่างเทคนิคและวิศวกรที่ทำงานง่ายๆ เช่น การวัดกำลังไฟฟ้าขณะสแตนด์บาย คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดคือการวัดกำลังที่รวดเร็ว แม่นยำและง่ายดายตลอดจนการใช้งานที่ง่ายดายบนยูนิตพื้นฐานที่เหมือนกันกับเครื่องมือ

  • การใช้งานทั่วไปสำหรับเครื่องวัดกำลังไฟฟ้า เครื่องวัดกำลังใช้งานง่าย แม่นยำ และเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับโซลูชันการวัดค่ากำลังไฟฟ้า ที่คุ้มค่า สำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การทดสอบสายการผลิตของอุปกรณ์ไฟฟ้า การประเมินอุปกรณ์ที่มีกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ การประเมินแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย DC การประกันคุณภาพ การวัดประสิทธิภาพสำหรับมอเตอร์อุตสาหกรรม เครื่องจักรหมุนและห้องปฏิบัติการสอบเทียบ สำหรับงานติดตั้งและบำรุงรักษา และบางส่วนสำหรับการวิจัยและพัฒนา นอกจากนี้ยังใช้ในการวัดกำลังจาก Grid
  • หลักการทำงานของเครื่องวัดกำลังไฟฟ้า เครื่องวัดกำลังโดยทั่วไปจะมีช่องการวัด 1, 3 หรือ 6 ช่อง สามารถวัดพารามิเตอร์ทั้งหมดในระบบกระแสสลับ (AC) หรือกระแสตรง (DC) เช่น พลังงานปรากฏ พลังงานแอคทีฟและรีแอกทีฟ กระแส แรงดัน ความถี่ ตัวประกอบกำลัง พลังงานที่ปรากฎ พลังงานแอคทีฟและพลังงานปฏิกิริยา 

เครื่องมือที่วัดและวิเคราะห์ค่ากำลังงานไฟฟ้า โดยมีค่าพารามิเตอร์หลักเพื่อนำมาวิเคราะห์ค่าพลังงาน ได้แก่ ค่าแรงดัน (Voltage), ค่ากระแส (Current), ค่ากำลังไฟฟ้า (Watt), ความถี่ (Frequency), ตัวประกอบกำลัง (Power factor) เป็นต้น ทั้งนี้การวัดมีทั้งแบบการวัดแบบเฟสเดียว (Single-phase) และ สามเฟส (Three-phase) ผู้ใช้สามารถเลือกการใช้งานตามรายละเอียดด้านล่าง